เวลคัมทูมายโอม

ในวันที่แสงแดดแผดจ้าอย่างไม่ปราณีใคร
ฉันไม่อยากเผชิญกับแสงร้อนแรงนั่น
เสียงเรไรดังจากป่าหลังบ้าน
เสียงนกร้องอยู่ใกล้ๆ
ปลาว่ายน้ำ หยอกล้อเล่นกัน
ฉันไม่อาจเอาตาออกไปมองได้ในเวลานี้
แต่หัวใจฉันฟังมัน และได้ยินมากกว่าใช้หูออกไปฟัง
ความเงียบ ทำให้เรื่องราวหลั่งไหลเข้ามาในสมองเป็นระยะๆ
ช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา มีเพื่อนๆพี่ๆและบุคคลที่เคารพนับถือ
แวะเวียนกันมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย
เอาความสุข ความคิดถึงและความรู้สึกดีดีมาฝากจนล้นบ้าน
ใครผ่านไปมาเห็นก็จะบอกว่าบ้านนี้ไม่เคยเหงาเลย
มีคนแวะมาตลอดเวลา
ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี รับแขกไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
ในความสุขไม่มีคำว่าเหนื่อย... จนกระทั่งเวลาผ่านไป...
เพิ่งผ่านสงกรานต์ไป ทุกคนก็ต้องกลับไปจัดการภาระของตัวเองตามวาระ
แต่ฉันเอง รู้สึกเหมือนเพิ่งได้หยุดงาน
และวันนี้ก็เป็นวันพักผ่อน
ขอใช้ระเบียงบ้านให้ได้ครึ่งของครึ่งเวลาที่อยู่ในครัวบ้างก็คงดีไม่น้อย

เมื่อวานซืนใช้เวลาสองชั่วโมงไปรับแม่มาจากบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งที่บ้านเรา
เพราะกลัวว่าจะเหงาที่พ่อไม่อยู่บ้าน เมื่อวานนี้อยู่มาเลเซีย ตอนนี้คงอยู่สิงคโปร์
ถ้าให้เดาพ่อคงไม่ไปเที่ยวต่อนิวซีแลนด์ ตามที่วางแผนไว้กับเพื่อนแน่ๆ
เพราะไปที่อื่นหลายๆวัน ไม่ใช่นิสัยพ่อ ป่านนี้คงคิดถึงบ้านใจจะขาดแล้ว
ไม่รู้จะนอนหลับหรือเปล่า อากาศก็เย็น พ่อชอบซะที่ไหน
ก่อนไปก็บอกให้เตรียมเสื้อหนาๆ ถุงเท้าอุ่นๆ
เตรียมยาพารา ยาแก้ท้องเสียไปด้วยเผื่อๆไว้
นี่ฉันเป็นลูกหรือว่าเป็นแม่เนี่ยยยยย คงคิดในใจ
แต่พ่อก็ดื้อ ไม่แพ้ฉัน ...
มีเสียงออกมาเบาๆจากลำคอว่า "ไม่ต้องอะไรมากมายหรอก" ง่ายๆตามสไตล์
ถ้าไม่เป็นคนขี้หนาวจะไม่บอกเลยเชียว
ใช่สิ! ตอนนี้ไม่หนาวนี่ เวลาไปถึงแล้วหนาวจะทำไง?
หาซื้อข้าวของก็ไม่เหมือนบ้านเรา
แม่ส่ายหน้า เวลาที่พ่อดื้อ ไม่พูดแล้ว!!
ตอนนี้แม่นั่งกินลมชมปลาริมระเบียงที่บ้านฉัน สบายใจ
บ่ายวันนี้จะพาแม่ไปภูเก็ตบ้านพี่สาว เปลี่ยนอีกหนึ่งบรรยากาศ
ที่ไม่หนาว และไม่เหงา
เรานั่งคุยกันริมระเบียง

แสงแดดอ่อนแรงลง
แต่หรีดหริ่งเรไรยังก้องกังวาล
บ้านหลังนี้ไม่มีวันหยุด...
ทุกวันเป็นวันสุข



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม